มีผู้คนจำนวนไม่น้อยทีเดียว ที่คิดว่าเรื่องการซื้อกระเป๋าเดินทาง หรือความจำเป็นที่จะใช้กระเป๋าเดินทางนั้นแทบจะไม่มีเลย แทบมองข้ามไปได้เลย เพราะคิดว่านานๆ ทีถึงจะได้ปัดฝุ่นเอามาใช้สักครั้ง แต่ในความเป็นจริงแล้ว เราก็ต้องมีเรื่องที่จะสลับกันไปพัก อยู่กับที่บ้าง เดินทางไกลเพื่อทำงาน และท่องเที่ยวบ้าง คุณเคยสังเกตุไหม…สิ่งที่ต้องพบเจอบ่อยครั้ง คือ ก่อนวันเดินทางกับการจัดเตรียมของลงกระเป๋าเดินทางหากไปหลายวันกระเป๋าจะตุงเป็นพิเศษ ทั้งเสื้อผ้า ยาสีฟัน ครีม โลชั่น โน๊ตบุ๊ค กล้อง ฯลฯ แทบจะปลิ้นออกมานอกซิป หากกระเป๋าเดินทางไม่ทานทนพอ เจอมาหมดแล้ว ทั้งสายสะพายเป้ขาด ล้อลากกระเป๋าไม่ทำงาน หลุด ซิปแตก ฯลฯ และผลสุดท้ายก็ลงเอยด้วยการ ซื้อใบใหม่ และแน่นอนว่าสต๊อกกระเป๋าเดินทางทั้งเก่าและใหม่เวลาจัดห้องทำไมมีเยอะขนาดนี้ ทั้งที่ใช้ได้และชำรุด
ดังนั้น ใครที่รู้ตัวว่ากำลังจะเตรียมแพ็คกระเป๋า และเพิ่งรู้ว่าใบเก่าอาการไม่ไหว หรือใบอาจจะเล็กไป ก่อนซื้อนอกจากเรื่องไซส์กระเป๋า และดีไซน์ที่เราต้องการแล้ว เราจึงได้นำเกร็ดวิธีการเลือกกระเป๋าเดินทางให้ใช้ได้นานๆมาฝากกันค่ะ ใครกำลังจะไปหาซื้อกระเป๋าเดินทางมีประโยชน์แน่นอนค่ะ เพราะมันจะช่วยคุณในการตัดสินใจในการเลือกซื้อกระเป๋าเดินทางใบใหม่ได้เป็นอย่างดี และใช้ได้คุ้มค่ากว่ากระเป๋าใบเก่าๆ ที่ผ่านมาของคุณ
1. วัสดุ สำหรับใครที่ค่อนข้างจะไปเมืองที่เจอฝนบ่อยๆ เลี่ยงกระเป๋าที่ทำจากหนัง และผ้าแบบธรรมดา
ควรเลือกที่เป็นผ้าแบบกันฝน เพื่อไม่ให้เสื้อผ้าสวยๆที่เตรียมไปอดใช้งาน
2. ซิป กระดุม จุดที่ต้องเปิดบ่อยๆ ควรเลือกซิปที่แข็งแรง เพราะเป็นจุดที่เราเปิดเข้าออก และเสียหายง่ายที่สุด นอกจากตัวซิปต้องแข็งแรงแล้ว การตัดเย็บ ที่เรียบร้อย และแน่นหนา ก็ช่วยให้กระเป๋าเดินทางอยู่กับเราได้ยาวๆ
3. ล้อเลื่อน ขนาดควรพอเหมาะกับน้ำหนักของสิ่งของ ไม่ใช่กระเป๋าใหญ่แต่ล้อเลื่อนอันเล็กนิดเดียว อายุการใช้งานคงไม่ยาวแน่ๆค่ะ อีกจุดที่ต้องดูคือความเปราะของล้อ เพราะขนาดอาจจะลวงตาเราได้
5. ใบรับประกัน .. ควรตรวจสอบจากผู้ซื้อเรื่องการรับประกัน ระยะเวลา และเงื่อนไขการรับประกันนอก จากนี้ควรเก็บใบรับประกันไว้เพื่อใช้ในการ
6. ไม่ต้องกังวลว่ากระเป๋าใบใหญ่กว่าจะหนักกว่า
สิ่งของที่คุณจะบรรจุลงในกระเป๋าอาจมีน้ำหนักประมาณ 20-30 กก. แต่น้ำหนักกระเป๋าที่ใหญ่เล็กต่างกัน 4 - 6 นิ้ว อาจมีน้ำหนักต่างกันเพียงครึ่งกิโลเท่านั้น และคุณจะรู้ว่าถ้ากระเป๋าไม่พอคุณต้องซื้อกระเป๋าอีกใบที่น้ำหนักอย่างต่ำก็ประมาณ3-4 กก.
7. กระเป๋าใหญ่ก็ไม่ใช่ว่าดีเสมอไป1. วัสดุ สำหรับใครที่ค่อนข้างจะไปเมืองที่เจอฝนบ่อยๆ เลี่ยงกระเป๋าที่ทำจากหนัง และผ้าแบบธรรมดา
ควรเลือกที่เป็นผ้าแบบกันฝน เพื่อไม่ให้เสื้อผ้าสวยๆที่เตรียมไปอดใช้งาน
2. ซิป กระดุม จุดที่ต้องเปิดบ่อยๆ ควรเลือกซิปที่แข็งแรง เพราะเป็นจุดที่เราเปิดเข้าออก และเสียหายง่ายที่สุด นอกจากตัวซิปต้องแข็งแรงแล้ว การตัดเย็บ ที่เรียบร้อย และแน่นหนา ก็ช่วยให้กระเป๋าเดินทางอยู่กับเราได้ยาวๆ
3. ล้อเลื่อน ขนาดควรพอเหมาะกับน้ำหนักของสิ่งของ ไม่ใช่กระเป๋าใหญ่แต่ล้อเลื่อนอันเล็กนิดเดียว อายุการใช้งานคงไม่ยาวแน่ๆค่ะ อีกจุดที่ต้องดูคือความเปราะของล้อ เพราะขนาดอาจจะลวงตาเราได้
4. หู สายกระเป๋า ควรทำจากวัสดุที่ดี ไม่ขาดง่าย และถ้าใช้สำหรับน้ำหนักเยอะ ควรมีที่รองรับน้ำหนักสายด้วย เพื่อไม่ให้เมื่อยในการใช้งาน การตัดเย็บติดกับตัวกระเป๋าต้องแน่นหนาดี
5. ใบรับประกัน .. ควรตรวจสอบจากผู้ซื้อเรื่องการรับประกัน ระยะเวลา และเงื่อนไขการรับประกันนอก จากนี้ควรเก็บใบรับประกันไว้เพื่อใช้ในการ
6. ไม่ต้องกังวลว่ากระเป๋าใบใหญ่กว่าจะหนักกว่า
สิ่งของที่คุณจะบรรจุลงในกระเป๋าอาจมีน้ำหนักประมาณ 20-30 กก. แต่น้ำหนักกระเป๋าที่ใหญ่เล็กต่างกัน 4 - 6 นิ้ว อาจมีน้ำหนักต่างกันเพียงครึ่งกิโลเท่านั้น และคุณจะรู้ว่าถ้ากระเป๋าไม่พอคุณต้องซื้อกระเป๋าอีกใบที่น้ำหนักอย่างต่ำก็ประมาณ3-4 กก.
คนทั่วไปจะบรรจุสิ่งของลงในกระเป๋าขนาด 26 นิ้วได้พอดี ดังนั้นก็ไม่ควรใช้กระเป๋าขนาดใหญ่กว่านี้ โดยเฉพาะถ้าคุณมีปัญหาเรื่องการยกของหนัก เช่น ปวดหลัง หรือปวดแขน
8. อย่าไปยึดติดกับยี่ห้อ
คนทั่วไปจะคุ้นเคยกับชื่อ Samsonite และ american tourister เพราะเป็นเจ้าแรก ๆ ที่ขายมานาน แต่ก็ยังมีหลายยี่ห้อที่คุณภาพก็ใช้ได้ เช่น travelpro eminent echolac delsey หรือแม้แต่ Blue light, Valentino, Miracle, Dandy ลองเลือกการใช้งานต่าง ๆ ให้ดีก่อนตัดสินใจควักกระเป๋าซื้อ
9. ซื้อกระเป๋ากับร้านที่มีความรู้ด้านกระเป๋า
เพราะกระเป๋าเดินทางเดี๋ยวนี้ไม่ใช่มีหน้าที่แค่บรรจุสัมภาระเท่านั้น อย่าไปกลัวที่จะถามคนขายเกี่ยวกับความทนทาน หน้าที่การทำงานต่าง ๆ การบริการหลังการขาย